น้ำพริกกะปิ สำหรับน้ำพริก เกิดขึ้นเพราะอาหารไทยจำพวกแกง จำเป็นที่จะต้องมีส่วนประกอบ หรือกรรมวิธีการทำที่ค่อนข้างซับซ้อน ผู้ปรุงจึงคิดทำน้ำพริกขึ้น เพื่อรวบรวมส่วนผสมต่าง ๆ นั้นเข้าด้วยกัน เป็นการลดขั้นตอนการปรุงลง และยังสามารถทำเก็บไว้ได้ในจำนวนมาก วันนี้อยากจะแนะนำการทำ น้ำพริกกะปิ ขั้นตอนทำไม่ยากเพียงแต่คุณแค่เตรียมวัตถุดิบให้ครบ เดินเข้าตลาดซื้อวัตถุดิบแล้วเริ่มลงมือทำกันเลย
ส่วนประกอบทำน้ำพริกกะปิ
- น้ำตาลปีบ 3-5 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสดแกะเปลือก 100 กรัม
- น้ำปลา 2-4 ช้อนโต๊ะ
- มะอึกซอยละเอียด 50 กรัม
- กุ้งแห้งป่น 200 กรัม
- กะปิห่อใส่ใบตองเผาไฟพอหอม 300 กรัม
- น้ำมะนาว 6-8 ช้อนโต๊ะ
- มะเขือเปราะเอาเมล็ดออกซอยเป็นเสี้ยวๆ 50 กรัม
- พริกขี้หนูสวน 50-70 กรัม
ขั้นตอนวิธีการทำน้ำพริกกะปิ
เริ่มต้นการทำน้ำพริกกะปิ ด้วยการนำกะปิโขลกกับกระเทียม พริกขี้หนู พอเริ่มละเอียดใส่กุ้งแห้งป่นโขลกต่อให้เข้ากัน ใส่มะเขือเปราะ มะอึก ใช้สากค่อย ๆ โขลกเบา ๆ เคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปีบให้ทั้งสามรสคลอ ๆ กันไป หวานตามหลังนิดหน่อยก็ได้ บางรายใส่ผิวมะนาวซอยละเอียดลงไปก็ได้กลิ่นหอมของผิวมะนาว รสออกขมฝาดนิด ๆ แต่ก็กลมกลืนกับกะปิและรสชาติรวม ๆ ของน้ำพริก บางรายใส่มะม่วงสับ มะขามอ่อนแล้วแต่ฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูมะนาวแพง แต่เป็นช่วงที่มะม่วงออกสู่ตลาดจึงใช้ความเปรี้ยวของมะม่วงแทนได้ โดยซอยสับแบบมะละกอส้มตำ หากให้มีกลิ่นหอมใส่แมงดาลงไปก็ดีน้ำพริกกะปิรับประทานกับปลาทูนึ่งทอด ปลาทอดอื่น ๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด แนมด้วย ผักสด ผักทอด ผักทอดชุบไข่ ผักต้ม น้ำพริกกะปิ หากใครทำอร่อยจริง ๆ ขายได้แน่นอน เพราะวิถีชีวิตไทยกับน้ำพริกกะปิขาดกันไม่ได้ น้ำพริกพื้นบ้านที่นิยมรับประทานมากที่สุด คนไทยทุกคนรู้จักมีการประยุกต์ เพื่อความเหมาะสมตามแต่วัตถุดิบที่มีในครัว ไม่ถือเป็นกฏตายตัวเช่น บางรายใส่มะอึก มะเขือเปราะซอย หรือมะเขือพวงบุบพอกแตกช้ำๆ ผิวมะนาวซอยละเอียดซึ่งแต่ละอย่างที่ใส่ไปให้รสชาติใกล้เคียงกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น